แม้ว่าหลังคาชิงเกิ้ล (Shingle Roof) จะเป็นตัวเลือกที่ทนทานและมีอายุการใช้งานยาวนาน แต่หากไม่ได้รับการดูแลที่เหมาะสม อาจเกิดปัญหาการรั่วซึม หรือเสื่อมสภาพเร็วกว่าที่ควร บทความนี้จะช่วยให้คุณเรียนรู้วิธีการ ดูแลและบำรุงรักษาหลังคาชิงเกิ้ล เพื่อให้ใช้งานได้ยาวนานขึ้น
1. ทำความสะอาดหลังคาเป็นประจำ
✅ วิธีการทำความสะอาดที่แนะนำ:
• ใช้เครื่องฉีดน้ำแรงดันต่ำเพื่อขจัดสิ่งสกปรก
• หลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีแรง ๆ ที่อาจทำลายวัสดุ
• กวาดเศษใบไม้และขยะออกจากหลังคา เพื่อป้องกันการสะสมของความชื้น
2. ตรวจสอบหลังคาอย่างสม่ำเสมอ
✅ ช่วงเวลาที่ควรตรวจสอบ:
• ทุก ๆ 6 เดือน หรือหลังจากพายุฝนแรง
• ตรวจเช็คว่ามีแผ่นชิงเกิ้ลที่หลุดล่อนหรือแตกหักหรือไม่
• ดูรอยต่อบริเวณขอบหลังคาและรางน้ำว่ามีรอยแตกร้าวหรือการรั่วซึมหรือไม่
3. ป้องกันตะไคร่น้ำและเชื้อรา
✅ วิธีการป้องกัน:
• หลีกเลี่ยงการให้ต้นไม้ใหญ่บังหลังคา เพื่อให้แสงแดดช่วยลดความชื้น
• ใช้สารป้องกันเชื้อราหรือตะไคร่น้ำโดยเฉพาะ
• ติดตั้งแถบทองแดงหรือสังกะสีบนหลังคาเพื่อช่วยลดการเติบโตของตะไคร่น้ำ
4. ตรวจสอบรางน้ำและระบบระบายน้ำ
✅ สิ่งที่ต้องทำ:
• ตรวจสอบว่ารางน้ำไม่มีเศษใบไม้หรือสิ่งอุดตัน
• ทำความสะอาดรางน้ำฝนทุก ๆ 3-6 เดือน
• ตรวจสอบการไหลของน้ำว่าไม่ติดขัดหรือเกิดน้ำขัง
5. ซ่อมแซมทันทีเมื่อพบปัญหา
✅ วิธีการแก้ไข:
• หากพบแผ่นชิงเกิ้ลหลุดล่อน ควรติดตั้งใหม่ทันที
• ใช้วัสดุอุดรอยรั่วสำหรับหลังคาในกรณีที่มีรอยแตกร้าว
• หากมีปัญหามาก แนะนำให้เรียกช่างผู้เชี่ยวชาญมาตรวจสอบ
การดูแลรักษาหลังคาชิงเกิ้ลให้ใช้งานได้นานขึ้น ไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแค่ หมั่นทำความสะอาด ตรวจสอบรอยรั่ว ป้องกันตะไคร่น้ำ และซ่อมแซมทันทีเมื่อพบปัญหา ก็จะช่วยให้หลังคาของคุณคงทนและสวยงามไปอีกนาน